ผบช.ภ.7 ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม สภ.บางคนที ภ.จว.สมุทรสงคราม

(วันพฤหัสบดี ที่ 22 ธ.ค. 65) เวลา 14.00 น.

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์
ผบช.ภ.7

ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม สภ.บางคนที ภ.จว.สมุทรสงคราม ที่ทำการมีความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย มีจุดคัดกรองโรค มีหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ไว้บริการ มีที่จอดรถสำหรับประชาชนที่มาติดต่อราชการ ไว้เพียงพอ

โดยในการนี้ได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญแก่ข้าราชการตำรวจ สภ.บางคนที ได้แก่
1. น้ำดื่ม จำนวน 20 แพ็ค
2. ข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม จำนวน 20 ถุง
3. หน้ากากอนามัย จำนวน 500 อัน
4. เจลแอลกอฮอล์ จำนวน 5 ลัง
5. น้ำมะพร้าวโคโค่แม๊ค จำนวน 2 ลัง
6. มาม่า จำนวน 2 ลัง
7. น้ำตาล จำนวน 10 กิโลกรัม
8. กาแฟเบอร์ดี้ จำนวน 1 ลัง
9. สปอนเซอร์ จำนวน 1 ลัง
10. นมจืด จำนวน 2 ลัง
11. น้ำปลา จำนวน 1 ลัง
12. เชลไดร์ จำนวน 1 ลัง
13. รองเท้า จำนวน 90 คู่
14. พัดลม 14 นิ้ว จำนวน 3 ตัว

จากนั้นเป็นประธานในการประชุม “ขับเคลื่อนการบริหารราชการตามนโยบายของ ผบ.ตร. ให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัด สภ.บางคนที”

โดยมี
พล.ต.ต.สุเมธ ปุณสีห์
ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม
พ.ต.อ.สุภัค วงษ์สวัสดิ์
ผกก.สภ.บางคนที
นายวุฒิชัย ยามโคกสูง
นายอำเภอบางคนที
คณะ กต.ตร.สภ.บางคนที
และข้าราชการตำรวจ สภ.บางคนที รอรับการตรวจและเข้าร่วมการประชุม

ได้กำชับให้ปฏิบัติดังนี้
1. นำนโยบายรัฐบาล วิสัยทัศน์ ผบ.ตร. “เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน” วิสัยทัศน์ตำรวจภูธรภาค 7 “ภักดีองค์ราชันมุ่งมั่นสร้างศรัทธา พัฒนาเป็นมืออาชีพ บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม นำสมัย เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา” และวิสัยทัศน์ ผบช.ภ.7 “ทำงานเชิงรุก เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน” ไปปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรม
2. ต้องทำงานกันเป็นทีม ยึดมั่นในระเบียบวินัย บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน และดำรงตนอย่างมีเกียรติ
3. การทำงานต้องประกอบด้วย “หลักการทำงาน 4443”
3.1 “4 เกาะ” เกาะติดพื้นที่ เกาะติดประชาชน/มวลชน/และชุมชน เกาะติดคนร้ายหรือเกาะติดศัตรูของประชาชน และเกาะติดผู้ใต้บังคับบัญชาหรือเกาะติดลูกน้อง
3.2 “4 ยก” ยกระดับองค์ความรู้ ยกระดับวิธีคิด ยกระดับวิธีการทำงาน และ ยกระดับการใช้ดุลพินิจ
3.3 “4 ทำ” ทำงาน ทำดี ทำบุญ และมีภาวะผู้นำ
3.4 “3 S” Smart Smile Strong
4. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติ และพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชา ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ คำสั่ง แบบแผนธรรมเนียมของทางราชการอย่างสม่ำเสมอโดยใกล้ชิด และสร้างขวัญกำลังใจ ความสามัคคี ภาพลักษณ์ของตำรวจให้ดีขึ้น และสร้างความเชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชนเพื่อให้ยอมรับว่าข้าราชการตำรวจเป็นมิตรที่ดีของประชาชน เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริงตามคำสั่งกรมตำรวจ ที่ 1212/2537 ลง 1 ต.ค. 2537 เรื่อง มาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ
5.กำชับการให้นำแนวทางยกระดับการให้บริการประชาชนในสถานีตำรวจ ตามนโยบาย ผบ.ตร. มาพัฒนายกระดับการบริการประชาชนในสถานีตำรวจ
6. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ตรวจสอบควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การกระทำความผิดใด ๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ห้ามมิให้เรียกรับผลประโยชน์ การจับกุมในลักษณะกลั่นแกล้ง มีส่วนพัวพันกับการกระทำความผิด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต หากพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินการทางวินัย คดีอาญาและปกครองอย่างถึงที่สุด
7. กำชับให้มีการฝึกทบทวนทางยุทธวิธีทั้งฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวนเป็นประจำสม่ำเสมอ ให้เกิดความคุ้นชินเมื่อต้องปฏิบัติ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียแก่เพื่อนพี่น้องข้าราชการตำรวจ
8. กรณีประชาชนร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนรำคาญ จากการแข่งรถในทาง สถานบันเทิงเปิดเพลงเสียงดัง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใส่ใจที่จะแก้ปัญหาการร้องเรียนดังกล่าว อย่าปล่อยปละละเลย จนเกิดการร้องเรียนซ้ำซาก และอย่าให้มีการนำเสนอข่าวว่า “ตำรวจไม่เป็นที่พึ่งของประชาชน”
9. ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ เป็นภารกิจเร่งด่วนของ ผบ.ตร. ให้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีรูปแบบต่าง ๆ ให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อ หากพบการกระทำความผิดดำเนินการบังคับใช้กฎหมายให้ถึงที่สุด
10. ปัญหายาเสพติดเป็นภารกิจเร่งด่วนของ ผบ.ตร. มุ่งเน้นใช้วิธีการบำบัดยาเสพติดต่อผู้เสพ เพื่อคืนคนดีสู่สังคมตามนโยบายรัฐบาล โดยปฏิบัติการเชิงรุกซักถามถึงแหล่งที่มาและเครือข่าย เพื่อจัดทำฐานข้อมูลในการติดตามจับกุมและขยายผลต่อไป
11.ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสายงาน สำรวจจัดทำข้อมูลบุคคลในพื้นที่ที่มีอาการทางจิต และมีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด พร้อมประสานความร่วมมือหน่วยงานอื่น เฝ้าระวังบุคคลเหล่านี้ มิให้ก่อเหตุอาชญากรรม
12.ให้หัวหน้าสถานีมีการตรวจคลังอาวุธและเรียกตรวจสอบอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่เบิกไปใช้เป็นระยะ เพื่อมิให้เกิดการนำเอาอาวุธปืนหลวง ไปขาย หรือจำนำ หรือตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น ก่อเหตุอาชญากรรม
13.เน้นย้ำให้มีความรักความสามัคคีในองค์กร หมู่คณะ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของตำรวจให้ดีขึ้น และสร้างความเชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชนเพื่อให้ยอมรับว่าข้าราชการตำรวจเป็นมิตรที่ดีของประชาชน เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง
14.เพิ่มความเข้มในการระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงปีใหม่ ระหว่างวันที่ 20 – 29 ธ.ค. 65 ตามที่ ตร. ได้สั่งการ
15.ให้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และจุดบริการประชาชน เพื่อป้องกันอาชญากรรม ระงับเหตุได้ทันท่วงที และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
16.ให้เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางของประชาชน ประชาสัมพันธ์ เตรียมเส้นทางสายหลัก สายรอง และมีชุดแก้ปัญหาวิกฤติจราจร ปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชม. เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา

จากนั้นได้ประดับยศแก่ข้าราชการตำรวจสภ.บางคนที ซึ่งได้รับพระราชทานยศตำรวจชั้นสัญญาบัตร จำนวน 3 นาย เพื่อเป็นเกียรติ และบำรุงขวัญกำลังใจแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา

จากนั้นเดินเยี่ยมชมห้องเก็บอาวุธปืนของ สภ.บางคนที ได้สั่งการให้นำนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีการเก็บรักษาและการเบิกใช้อาวุธปืนของทางราชการไปเป็นแนวทางในการปรับปรุงห้องเก็บอาวุธปืนมาปรับปรุงพัฒนา เพื่อควบคุมการเบิกจ่าย และรักษาความปลอดภัยภายในห้องเก็บรักษาอาวุธปืนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว แม่นยำ

ณ สภ.บางคนที ต.บางคนที อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม

Skip to content