ผบช.ภ.7 ติดตามความคืบหน้าคดีจี้ชิงทองในร้านทองห้างโลตัสคลองครุ

 

วันที่ 20 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีคนร้ายบุกเดี่ยวใช้มีดเป็นอาวุธจี้ชิงสร้อยข้อมือทองคำจำนวน 5 เส้น น้ำหนักรวม 22 บาท ภายในร้านจำหน่ายทองรูปพรรณ ห้างทองบางกอกโกลด์ส สาขาโลตัสคลองครุ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อเวลาประมาณ ​9.30 น.ของวันที่ 19 มี.ค.65 ก่อนหลบหนีไปตามเส้นทางถนนเศรษฐกิจ 1

ความคืบหน้าล่าสุดชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ร่วมกับ ชุดสืบสวน ภ.จว.สมุทรสาคร และชุดสืบสวนภาค 7 ได้แยกกันตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางต่างๆที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางก่อนก่อเหตุและหลบหนี  เบื้องต้นทราบว่าก่อนก่อเหตุ คนร้ายใช้เส้นทางเลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ ก่อนที่จะตัดเข้าสู่ถนนบางปลาและเลี้ยวเข้าซอยบ้านเลขที่ 5 เพื่อเข้าไปภายในห้างโลตัสทางประตูด้านหลังซึ่งเชื่อมกับถนนซอย

ส่วนหลังก่อเหตุคนร้ายใช้เส้นทางหลบหนีทางประตูด้านหน้า ซึ่งเชื่อมกับถนนเศรษฐกิจ 1 ขาเข้าอำเภอกระทุ่มแบน ก่อนขี่รถ จยย.หลบหนีไปจนถึงบริเวณหน้าวัดบางปิ้ง และเลี้ยวซ้ายเข้าไปยังถนนเลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ ซึ่งจากจุดนี้เจ้าหน้าที่ยังคงต้องตามหาเส้นทางหลบหนีต่อไป

ขณะเดียวกันมียังมีข้อมูลว่า ก่อนก่อเหตุ 1 วัน คนร้ายได้ทำทีเป็นลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อทองรูปพรรณที่ ห้างทองบางกอกโกลด์ส โดยมีพนักงานขายจำลักษณะได้

หนึ่งในพนักงานขายทอง ระบุ ก่อนหน้าวันเกิดเหตุ(18 มี.ค.65 เวลาประมาณ 10.00 น.) คนร้ายได้ทำทีเข้ามาติดต่อขอซื้อสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 โดนคนร้ายใส่เสื้อเชิ้ตลายสกอตแขนยาวพับแขน สวมกางเกงวอร์มตัวเดิม หมวกไหมพรม และกระเป๋าคาดเอว ที่ใส่มาในวันลงมือจี้ชิงทอง โดยในวันที่คนร้ายมาทำทีขอซื้อทอง อ้างว่ามีเงินอยู่ 8 หมื่นบาท ต้องการซื้อทองสร้อยคอ 3 บาท  ซึ่งทางพนักงานขายแจ้งว่าสร้อยคอ 3 บาท ต้องใช้เงินประมาณ 9 หมื่นบาท คนร้ายจึงได้กลับออกไปโทรศัพท์ และเข้ามาไปบอกพนักงานงานว่าเงินไม่พอเดี๋ยวค่อยกลับมาอีกครั้ง

กระทั่งวันที่เกิดเหตุ (19 มี.ค.65 เวลาประมาณ 9.30 น.) คนร้ายได้กลับมาอีกครั้งโดยสวมใส่เสื้อผ้าตามภาพข่าว เมื่อเดินผ่านประตูทางเข้าห้างโลตัส และมาใกล้ถีงร้านทอง คนร้ายได้ดึงหมวกไหมพรมลงมาปิดหน้า พร้อมกับปีนข้ามเคาเตอร์ขายทอง และใช้อาวุธมีดพับข่มขู่พนักงานขาย โดยพนักงานขาย ระบุว่า คนร้ายไม่ได้ทำอันตรายใดๆมีเพียงการพูดกับพนักงานขายทำนองว่า “ขอเถอะช่วงนี้โควิด” ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุตามที่ปรากฏในภาพวงจรปิด

ขณะที่ พ.ต.อ.ธนากร วงศ์ศิริลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร เปิดเผย ตำรวจเร่งทำงานติดตามคนร้ายทั้งวันทั้งคืน โดยแบ่งการทำงานออกเป็น  3 ทีม คือทีมสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ทีมสืบสวน ภ.จว.สมุทรสาคร และทีมสืบสวนสอบสวนภูธร ภาค 7 ซึ่งทั้งหมดแบ่งหน้าที่กันทำงานเพื่อความรวดเร็ว โดยแบ่งงานตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งก่อนและหลังที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ  ส่วนผู้ที่เห็นเหตุการณ์ทุกคนสามารถจำตำหนิรูปพรรณของคนร้ายได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังเก็บรอยนิ้วมือคนร้ายส่งตรวจสอบเพื่อยืนยันตัวตนกับฐานข้อมูลของทางฝ่ายปกครอง ซึ่งต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง

ในช่วงบ่ายของวันที่ 20 มี.ค.65 พล.ต.ท.ธนายุฒม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมคณะ ได้เข้าร่วมประชุมกับชุดคลี่คลายคดีตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ที่ห้องประชุมชั้น 4 ภ.จว.สมุทรสาคร เพื่อติดตามความคืบหน้าและเร่งรัดคดีที่เกิดขึ้น

โดย ผบช.ภ.7 เปิดเผยหลังการประชุม โดยระบุขณะนี้ในเรื่องของคดีมีความคืบหน้าไปมาก ขอเวลาอีกไม่นานเชื่อว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ เพราะเป็นคดีที่ไม่ซับซ้อนแต่อย่างใด และได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามประกบบุคคลเป้าหมายเอาไว้ ที่เดินทางมาวันนี้เพื่อมาให้กำลังใจทีมสืบสวนจับกุม ส่วนประเด็นที่ต้องเร่งดำเนินการคือการป้องกันเหตุดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 โดยต้องขอความร่วมมือร้านทอง ร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ ในเฉพาะเรื่องการดูแลตรวจสอบกล้องวงจรปิด และการแจ้งตำรวจหลังเกิดเหตุทันที เนื่องจากทางตำรวจมีแผนและขั้นตอนของก้าวสกัดจับ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

 

Skip to content