วันพุธ ที่ 22 ก.พ. 66) เวลา 10.00 น.
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์
ผบช.ภ.7
ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม ภ.จว.สุพรรณบุรี
ในการนี้ได้ประชุมเร่งรัดการปฏิบัติราชการตามแนวทางการยกระดับการบริการประชาชนของสถานีตำรวจฯ
โดยมี
พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย
รอง ผบช.ภ.7
พล.ต.ต.วรายุทธ สุขวัฒน์
รอง ผบช.ภ.7
พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช
ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี
รอง ผบก., ผกก., รอง ผกก. ในสังกัดภ.จว.สุพรรณบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ได้สั่งการกำชับการปฏิบัติดังนี้
1.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นมีความเข้าถึงและใส่ใจในความเป็นอยู่ของผู้ใต้บังคับบัญชาและครอบครัว อย่างใกล้ชิด คอยช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้สิน ความเป็นอยู่ อย่าปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาต้องเคว้งคว้างเผชิญปัญหาเพียงผู้เดียว
2.ให้ผู้บังคับบัญชาเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านงานในหน้าที่ ด้านการใช้ชีวิต การครองตนให้อยู่ในศีลธรรมอันดี
3.ให้เร่งรัดตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ขอลาออกจากราชการตามที่เป็นประเด็นในสื่อโซเชียล โดยให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นควบคุม สั่งการทุกระยะ ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วและปราศจากข้อสงสัยจากสังคม พี่น้อง ประชาชน
4.กรณีที่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ข้าราชการตำรวจสังกัด สภ.เมืองสุพรรณบุรี ให้เร่งรัดให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว พร้อมกับให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยมอบหมายรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ควบคุมการปฏิบัติ
5.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับควบคุมกำชับการปฏิบัติ และให้ข้าราชการตำรวจทุกนาย ยกระดับดำเนินการตามแนวทางการยกระดับการบริการประชาชนของสถานีตำรวจโดยเคร่งครัด ได้แก่
5.1บุคลิกภาพของข้าราชการตำรวจ ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตใจของการให้บริการที่ดี ด้วยความเป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส รวดเร็ว ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ปฏิบัติต่อประชาชนด้วยความสุภาพและให้เกียรติ
5.2ให้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยให้คำแนะนำกับประชาชนที่มาใช้บริการ หรือผู้มาติดต่อราชการอีกหน้าที่หนึ่ง
5.3เมื่อประชาชนแจ้ง หรือร้องขอให้ตำรวจไปพบหรือไปช่วยเหลือในพื้นที่ ต้องดำเนินการด้วยความรวดเร็ว พนักงานวิทยุต้องสอบถามข้อมูลให้ได้รายละเอียดที่เพียงพอ ห้ามบ่ายเบี่ยงไม่ตรวจสอบให้ความช่วยเหลือโดยเด็ดขาด
5.4การทำงานเชิงรุก Stop walk and talk ให้ตำรวจไปพบประชาชนเองโดยไม่มีการแจ้งหรือร้องขอ ซึ่งเป็นการทำงานเชิงรุก และมีความสำคัญที่สุดในการสร้างความพึงพอใจให้ประชาชน
6.นโยบายด้านยาเสพติด เป็นหนึ่งในภารกิจเร่งด่วน “เพื่อประชาชน” ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ กำกับดูแลให้ผลการปฏิบัติเป็นไปตามแนวทางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย
6.1กวดขันดูแลมิให้ข้าราชการตำรวจเข้าไปพัวพันเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หากฝ่าฝืนให้ดำเนินการโดยเด็ดขาด
6.2ร่วมกับภาคีเครือข่าย ค้นหาผู้ติดยาเสพติดที่มีอาการทางจิตประสาท และจัดทำฐานข้อมูลเพื่อพิจารณาจัดระดับความรุนแรงของอาการ เพื่อนำเข้าบำบัดรักษาโดยสมัครใจ โดยเร็วตาม พ.ร.บ. สุขภาพจิตฯ และบันทึกข้อมูลในระบบชักถามข้อมูลยาเสพติดทุกราย
6.3ให้ความสำคัญกับโครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ กำหนดให้ผู้บังคับบัญชาออกตรวจเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ
7.ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นอีกหนึ่งภารกิจเร่งด่วนเพื่อประชาชน ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ กำกับดูแลให้ผลการปฏิบัติเป็นไปตามแนวทางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย
7.1เมื่อได้รับเรื่องจาก ตร./มีประชาชนมาแจ้งความ ต้องเร่งรัดตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น หากมีน่าเชื่อว่ามีการกระทำความผิด ให้เร่งรัดอายัดบัญชี และประสานธนาคารเจ้าของบัญชีเพื่อทราบรายการเดินบัญชี ตามแนวทางของ ตร. โดยด่วน
7.2หลังดำเนินการอายัดบัญชีแล้วให้เร่งออกหมายเรียกเจ้าของบัญชีเพื่อสอบถามหาข้อเท็จจริง ซึ่งหากออกหมายเรียกแล้ว บุคคลดังกล่าวไม่มาพบ ให้เร่งรัดดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
7.3กรณีดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายจนได้มาซึ่งหมายจับแล้ว ให้เร่งส่งหมายจับให้บก.สส. เพื่อบูรณาการการทำงาน ขับเคลื่อนผลการปฏิบัติในภาพรวมของ ภ.7
8.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ควบคุม กำกับดูแล กวดขันความประพฤติ และ ระเบียบวินัยข้าราชการตำรวจภายใต้ปกครองบังคับบัญชา และสร้างขวัญกำลังใจ ความสามัคคี ภาพลักษณ์ตำรวจให้ดีขึ้น และสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธา เพื่อให้ประชาชนยอมรับว่าข้าราชการตำรวจเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง ตามคำสั่ง ตร. ที่ 1212/2537 ลง 1 ต.ค. 37
ณ ห้องประชุม 1 ภ.จว.สุพรรณบุรี ต.สนามชัย อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี