วันนี้(วันอาทิตย์ที่ 16 ม.ค.65) เวลาประมาณ 13.00 น.
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์
ผบช.ภ.7
ได้เดินทางมาประชุมเร่งรัดความคืบหน้าของคดี และเดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุในคดี “ผู้ต้องขังหลบหนีจากสถานกักโรคผู้ต้องขังเข้าใหม่(เรือนจำชั่วคราวบางนางรม)เรือนจำประจวบคีรีขันธ์ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลบหนีไป จำนวน 8 คน เมื่อวันที่ 15 ม.ค.65 เวลาประมาณ 18.00 น.”
โดยมี
นายเสถียร เจริญเหรียญ
ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา
รอง ผบช.ภ.7
พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม
ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์
นายสิทธิ สุธีวงศ์
รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์
นายมิตรารุณห์ พรหมอินทร์
ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พ.ต.อ.กิตติภพ ชมภูนุช
รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์
พ.ต.อ.พนิช อ่วมสอาด
รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์
พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย
รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์
พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย
รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์
นายสินาทร โอ่เอี่ยม
ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พ.ต.อ.สุธี วรรณสูตร
ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ซึ่งคดีนี้ผู้ต้องขังได้หลบหนีจากคุมขังทั้งสิ้น 8 ราย โดยสามารถติดตามจับกุมตัวครบทั้ง 8 ราย กลับมาในควบคุมได้อย่างรวดเร็วภายใน 24 ชม.
โดยได้กำชับให้
1.ให้ผู้บังคับบัญชา ควบคุมกำกับดูแลและสั่งการในคดีด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด โดยให้ รอง ผบก.ที่รับผิดชอบงานสอบสวน รับผิดชอบกำกับการสอบสวนด้วยตนเอง
2.ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีทุกนาย พึงระมัดระวังการให้ข่าว โดยเน้นย้ำอย่าให้มีการเผยแพร่แนวทางการสืบสวน หรือข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องทางคดี ต่อสื่อมวลชนหรือมีภาพไปปรากฎยังสื่อโซเชี่ยลมีเดียต่าง ๆ เพราะจะทำให้ข้อมูลความลับคดีรั่วไหล ทำให้ทำงานได้ยาก
3.กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ทำงานร่วมกันเป็นทีม(teamwork) บูรณาการการข่าวร่วมกันทุกฝ่าย แบ่งหน้าที่กันทำงานให้ชัดเจน
4.ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่เรือนจำ ถอดบทเรียนวางแผน/วางแนวทางป้องกันเหตุ มิให้มีเหตุเกิดขึ้นซ้ำ เฝ้าระวัง ขีดวงให้เดิน นำทฤษฎีป้องกันเหตุอาชญากรรมมาปรับใช้ ลดโอกาส เพิ่มความเสี่ยง เพื่อไม่ให้ผู้คิดจะก่อเหตุกล้าก่อเหตุ
5.ให้รายงานผลการปฏิบัติให้ทราบทุกระยะ หากพบปัญหาให้รายงานให้ทราบ เน้นย้ำอย่าให้เกิดข้อบกพร่อง
ในการปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาอันรวดเร็ว ภายใน 24 ชม. การปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง
ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงพี่น้องประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่และให้ความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย ขอชมเชยพร้อมทั้งขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป
ณ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ต.ประจวบคีรีขันธ์ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์