เมื่อวันที่ 27 กรกฏาคม 2565 เวลา 15.00 น. ที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี, พ.ต.อ.นิกร ด้วงฉุน ผกก.สภ.เดิมบางนางบวช, พ.ต.อ.พีระ อัศวพิบูลย์ผล ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี, พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับซึ่งก่อเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ คือ นายละออง ขาวพันธุ์ อายุ 66 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ จ.140/2565 ลงวันที่ 27 ก.ค. 65 ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย” พร้อมด้วย ของกลางในคดี (1.) รถจักรยาน จำนวน 1 คัน, (2.) รองเท้าแตะของผู้ต้องหา 1 คู่ (3.) รองเท้าแตะของผู้ตาย 1 คู่, (4.) แกลอนน้ำมัน 1 แกลอน, (5.) เสื้อของผู้ต้องหา 1 ตัว, (6.) กางเกงของผู้ต้องหา 1 ตัวสำหรับคดีดังกล่าว เหตุเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 เวลา 20.30 น. พนักงานสอบสวน สภ.เดิมบางนางบวช ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเสียชีวิต จึงพร้อมด้วยผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์เวร เดินทางไปร่วมชันสูตรพลิกศพ ที่เกิดเหตุได้พบศพหญิงอายุประมาณ 72 ปี นอนเสียชีวิตอยู่หน้าบ้านภายในรั้วเลขที่ 35 ม.2 ต.นางบวช อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เบื้องต้นจากการสันนิฐานของแพทย์เวร ผู้เสียชีวิตได้ถูกของแข็งตีบริเวณศีรษะต่อมาวันนี้ (27 ก.ค. 65) พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดสุพรรณบุรีขออนุมัติหมายจับ ซึ่งศาลจังหวัดสุพรรณบุรีอนุมัติหมายจับ ที่ จ.140/2565 ลงวันที่ 27 ก.ค. 65 และ เวลา 11.00 น. ของวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวนายนายละออง ขาวพันธุ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ถูกจับกุมได้ที่บริเวณสวนมะม่วง ต.วังลึก อ.สามซุก จ.สุพรรณบุรี นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เดิมบางนางบวช ดำเนินคดี
ทั้งนี้ได้มอบเงินให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงาน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน และกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ทำงานโดยยึดหลักกฎหมายและรอบคอบตามหลักยุทธวิธีตำรวจที่ได้ฝึกทบทวนมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่ครอบครัวพี่น้องข้าราชการตำรวจ ตามที่ ผบ.ตร. ได้ฝากข้อห่วงใย
ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดหลักการทำงานแบบ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชน ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงครอบครัวผู้เสียชีวิต ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิตและครอบครัว โดยจะรวบรวมพยานหลักฐาน สอบสวนอย่างตรงไปตรงมาปราศจากข้อสงสัยจากทุกฝ่าย ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป “ผบช.ภ.7 กล่าว”