วันที่ 19 สิงหาคม 2565 เวลาประมาณ 16.30 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 2 สภ.เมืองราชบุรี ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้เดินทางมาประชุมเร่งรัดติดตามผลความคืบหน้าของคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และเป็นที่น่าสนใจของประชาชน ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี จำนวน 2 คดี ได้แก่ เหตุ “คนร้ายยิงอาวุธปืนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่ ร้านโรงเหล้าเพชรเกษม ม.5 ต.โคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 65 เวลา 01.50 น. ” และเหตุปรากฏในสื่อออนไลน์ “อดีตทหารหญิงลูกจ้างถูกตำรวจนายจ้างหญิง ทำร้ายร่างกาย ใช้งานเยี่ยงทาส” มี พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จว.ราชบุรี, พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.สทส., พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงษ์เวียงจันทร์ รอง.ผบก.ภ.จว.ราชบุรี, พ.ต.อ.สุพมาศ บัวลาด รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี, พ.ต.อ.โชติช่วง ภาณุทัต ผกก.สส.ภ.จว.ราชบุรี, พ.ต.อ.เชิดพงศ์ ชูกลิ่น ผกก.พฐ.ราชบุรี, รอง ผกก.ฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
พล.ต.ท.ธนายุตม์ เปิดเผยว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เร่งรัดสืบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในคดี เร่งรัดติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี ตามที่ได้สั่งการเพิ่มเติม สืบสวนภาคพื้นดินโดยละเอียด
พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสอบสวน ทำการสอบสวนปากคำพยานผู้เสียหาย บุคคลใกล้ชิด บุคคลที่อยู่ใกล้สถานที่เกิดเหตุ เร่งรัดผลการตรวจชันสูตรบาดแผล มาประกอบสำนวนการสอบสวน ดำเนินการตามที่ได้สั่งการเพิ่มเติมภายใต้แนวทางของกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยให้ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี และ รอง ผบก.รับผิดชอบงานสอบสวน ควบคุมการสอบสวนในคดีด้วยตนเอง, ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจเยี่ยมผู้เสียหาย คุ้มครองผู้เสียหายและพยาน ป้องกันการข่มขู่ผู้เสียหายและพยาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้เสียหาย ในการอำนวยความยุติธรรม, ให้ผู้บังคับบัญชา ควบคุมกำกับดูแลและสั่งการในคดีด้วยตนเอง ตรวจสำนวนการสอบสวน ตามคำสั่ง ตร.ที่ 419/2556 อย่างเคร่งครัด, โดยให้ดำเนินการแจ้งความคืบหน้าทางคดีให้ฝ่ายผู้เสียหายทราบเป็นระยะ และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน-ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีทุกนาย พึงระมัดระวังการให้ข่าว โดยเน้นย้ำ อย่าให้มีการเผยแพร่แนวทางการสืบสวนหรือข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทางคดีต่อสื่อมวลชนหรือมีภาพไปปรากฎยังสื่อโซเชี่ยลมีเดียต่าง ๆ เพราะจะทำให้ข้อมูลความลับคดีหรือเทคนิคในการสืบสวนรั่วไหล ทำให้ทำงานได้ยาก
“พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ทำงานร่วมกันเป็นทีม (Teamwork) บูรณาการการข่าวร่วมกันทุกฝ่าย แบ่งหน้าที่กันทำงานให้ชัดเจน และให้รายงานผลการปฏิบัติให้ทราบทุกระยะ หากพบปัญหาให้รายงานให้ทราบ เน้นย้ำอย่าให้เกิดข้อบกพร่อง “ผบช.ภ.7 กล่าว”
ที่มา https://thaitabloid.com/archives/118813