“บิ๊กโอ๋” ผบช.ภ.7 โชว์ผลงานจับ 2 มือยิงช่างเฟอร์นิเจอร์หนุ่มหมกศพซอกหินเชิงภูเขา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 17 ต.ค.64 พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ได้เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อแถลงข่าวการจับกุมตัวนายธนิตย์ วังกุ่ม หรือบอลวังกุ่ม และนายรุ่ง บุญมอญ หรือรุ่งห้วยกระเจา 2 ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงนายบัญชา หรือบี กลิ่นเกษร อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/6 หมู่ 8 บ้านถ้ำผาวังจันทร์ ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี อาชีพเป็นช่างทำเฟอร์นิเจอร์ไม้จนเสียชีวิตแล้วนำศพไปทิ้งอำพรางในซอกหินเชิงภูเขาบ้านโป่งรี หมู่ 6 ต.หนองรี อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี พบศพเมื่อเวลา 12.10 น.ของวันที่ 13 ต.ค.64 ที่ผ่านมา

ภายหลังที่ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จาก พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ประสพชัย  มัตสยะวานิชกูล ผกก.สส.ภ.7 เข้ามาดูแลในเรื่องการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย เนื่องจากเป็นคดีที่สะเทือนขวัญต่อประชาชน คนร้ายกระทำการอุกอาจอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.บุญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 และ พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวานิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน รอง ผบก.สส.ภ.7 สั่งการให้ พ.ต.อ.ณัฐพิสิษฐ์  รัตนอุดมพล ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.7 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ทศพร  รุ่งเรืองศุภรัตน์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.7 พร้อมตำรวจชุด บก.สส.ภ.7 ลงพื้นที่ประสานกำลังกับ พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ภาคิน  แสนพุฒิ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี สนธิกำลังกับตำรวจชุด กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ร่วมกับ พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี รักษาการในตำแหน่ง ผกก.หนองรี และตำรวจชุดสืบสวน สภ.พนมทวนฯ เพื่อติดตามสืบสวนจับกุมกลุ่มคนร้ายซึ่งคาดว่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน

แนวทางการติดตามสืบสวนสอบสวนของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้เรียกตัวพ่อ และพี่สาวของนายบัญชา ผู้ตายมาสอบปากคำเพื่อหารายละเอียด และเบาะแสในเรื่องความขัดแย้งรวมทั้งเบาะแสของคนร้ายจนทราบว่า ก่อนหน้าที่ผู้ตายจะหายตัวไปเคยมีเรื่องความขัดแย้งกับนายธริตย์ หรือบอลหนองกุ่ม และนายรุ่ง ห้วยกระเจา ซึ่งเป็นเพื่อนกับนายบัญชา ผู้ตาย ตำรวจจึงพุ่งเป้าไปที่นายธนิตย์ หรือบอลวังกุ่ม และนายรุ่ง ห้วยกระเจา ซึ่งคาดว่าเป็นผู้ต้องสงสัยน่าจะเป็นคนร้าย จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อออกติดตามจับกุมตัว โดยจากการตรวจสอบกลัองวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลังก่อเหตุแล้ว คาดว่าจะหลบหนีพบว่า คนร้ายได้นำรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเทน่า(ดัดแปลงเป็นรถ จยย.วิบาก)ไม่ติดแผ่นปัายทะเบียนซึ่งเป็นของผู้ตายใส่รถจิ๊บไปทิ้งที่คลองชลประทานที่บ้านตลาดเขตในพื้นที่ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี

จนกระทั่งในช่วงบ่ายของวันที่ 15 ต.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งสนธิกำลังแยกย้ายกันออกติดตามค้นหาเบาะแสของคนร้าย ก็ทราบว่า นายธนิตย์ วังกุ่ม หรือบอลวังกุ่ม อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 3 ต.จระเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นบ้านพ่อแม่ของนายบอล เจ้าหน้าที่ตำรวจทีมสืบสวนจึงเดินทางไปจับกุมตัวนายธนิตย์ หรือบอลวังกุ่ม เอาไว้ได้พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองยาวที่ใช้ก่อเหตุ 1กระบอก รถจิ๊บ 1 คันที่จอดอยู่ในโรงรถ และเชือกมะนิลา 1 เส้น ซึ่งตำรวจคาดว่าเป็นของกลางที่ใช้ในการกระทำผิด จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน นำตัวมาสอบสวนปากคำที่กองบังคับการตำรวจ ภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ต่อหน้าคณะนายตำรวจ

เบื้องต้นนายธนิตย์ วังกุ่ม หรือบอลวังกุ่ม ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องเขยของนายรุ่ง บุญมอญ ให้การยอมรับสารภาพว่า “วันเกิดเหตุได้ไปกับนายรุ่ง พี่เมียจริง แต่ไม่ได้เป็นคนลงมือทำร้ายนายบัญชา เพียงแต่อยู่ในเหตุการณ์ คนที่ใช้อาวุธปืนที่จ่อยิงนายบัญชา ผู้ตาย 2 นัด คือนายรุ่ง บุญมอญ ส่วนอาวุธปืนลูกซองยาวที่ใช้เป็นของตนจริง หลังเกิดเหตุได้ช่วยกันใช้เชือกมัดคอ แขนขา เอากระสอบป่านที่เตรียมมาปิดคลุมร่าง ใช้ถุงดำปิดคลุมศีรษะอีกชั้นหนึ่ง จากนั้นจึงช่วยกันนำศพไปทิ้งยัดซอกหินเพื่ออำพรางคดี และแยกย้ายกันหลบหนีไปกบดานที่บ้านพ่อและแม่ ซึ่งเมื่อรู้ข่าวว่าตำรวจกำลังตามจับ จึงเตรียมจะติดต่อขอเข้ามอบตัว แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวเสียก่อน”

ในส่วนของการติดตามจับกุมตัวนายรุ่ง บุญมอญผู้ต้องหาอีก 1 คน ที่หลบหนี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.ของวันที่ 16 ต.ค.64 ที่ผ่านมา กำลังเจ้าหน้าที่ชุด กก.สส.1 บก.สส.ภ.7 ร่วมกับตำรวจชุด กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี สืบทราบว่า นายรุ่ง บุญมอญ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/4 หมู่ 6 ต.หนองรี อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ จ.348/2564 ลงวันที่ 14 ต.ค.2564 ซึ่งเป็นคนร้ายอีก 1 คนที่ร่วมกันก่อเหตุได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่คอกหมูข้างบ้านหลังหนึ่งในเขตพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมทำการจับกุมตัวเอาไว้ได้ นำตัวมาสอบสวน เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือใช้อาวุธปืนลูกซองยาวจ่อยิงนายบัญชา กลิ่นเกษร ผู้ตายจริง ส่วนสาเหตุนายรุ่ง อ้างว่า โกธรแค้นที่ผู้ตายเป็นหนี้ไปทวงถามหลายครั้งก็ไม่ยอมให้ แถมยังมาทำร้ายน้องสาว จึงนัดไปเคลียร์ปัญหากันที่ชายป่าเชิงเขา แต่เคลียร์ปัญหาันไม่จบถูกนายบัญชา ผู้ตายทำร้ายก่อน จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนลูกซองจ่อยิงผู้ตาย 2 นัดแล้วนำศพไปยัดซอกหินอำพรางคดี จึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

มีรายงานข่าวว่า ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 พร้อมด้วยคณะนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่กำลังแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน นส.ช่อทิพธัญญา กลิ่นเกษร พี่สาวของนายบัญชา ผู้ตายพร้อมด้วยบรรดาญาติๆ ได้นำกระเช้าเครื่องดื่มบำรุงกำลังไปมอบให้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 และกล่าวขอบคุณในการทำงานติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุเอาไว้ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว

https://www.banmuang.co.th/news/crime/254731

Skip to content