เมิ่เวลา 13.30 -17.30 น.วันที่ 11 มี.ค. 65 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมชั้น 2 ตำรวจภูธรภาค7 ถนนเหนือวัง อ.เมือง จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เป็นประธานประชุมบริหารราชการ ภ.7 ครั้งที่ 2/2565 ผู้ร่วมประชุมประกอบด้วย พล.ต.ต.อาทิชา เปาอินทร์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบช.ภ.7 ผบก.จังหวัด ผบก.ส่วนงาน ส่วนหน่วย รอง ผบก.ฯ ผกก.ส่วนงาน ผกก.หัวหน้า สภ.ฯ ในสังกัดพร้อมเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ก่อนเข้าวะระประชุม มีพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับหน่วยในสังกัด ภ.7 ที่มีผลการดำเนินงานดีเด่นด้านต่างๆ การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2565 ใบประกาศชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ทั้ง หัวหน้าหน่วย และ ตัวผู้ปฏิบัติ
ข้อสั่งการในการประชุม ผบช.ภ.7 และ รอง ผบช.ภ.7 ในส่วนหน้างาน ทบทวนข้อสั่งการ ผบ.ตร.รอง ผบ.ตร.(ในการประชุมบริหาร ตร. เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 65) เรื่องคดีความมั่นคง การทำลายป้ายพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อมีการจับกุมแล้ว ให้ ผบก. ลงไปกำกับดูแลคดีด้วยตนเอง เพื่อความรวดเร็ว ถูกต้อง และให้ทุกหน่วยไปดูแลในพื้นที่ล่อแหลม โดยให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ กำชับกวดชัน การจับกุมบุคคลตามหมายจับค้างเก่า กำชับฝ่ายสืบสวนให้ความสำคัญ และร่วมบูรณาการกับทุกฝ่าย เพื่อเร่งรัดจับกุมบุคคลตามหมายจับค้างเก่า ให้ปรากฏผลโดยเร็ว หัวหน้าสถานีตำรวจ/หัวหน้าหน่วย ต้องตรวจสอบหมายจับคงค้างอยู่เป็นประจำ แล้วมอบหมาย ผู้รับผิดชอบ มีการบริหารหมายจับอย่างเป็นระบบ กรณีหมายที่ครบกำหนด 180 วัน แล้วยังจับไม่ได้ ให้ถือปฏิบัติตามหนังสือ ตร. ที่ 0011.25/3020 ลง 13 ก.ย. 62 เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการแจ้งผู้อำนวยการทะเบียนกลางเกี่ยวกับการลงรายการบุคคลที่อยู่ระหว่างการติดตามตัวตามหมายจับของศาลไว้ในทะเบียนบ้านกลาง และกรณีมีการจับกุมตัวตามหมายจับได้แล้ว ให้ดำเนินการประสานงานหน่วยเจ้าของหมาย เพื่อดำเนินการถอนหมาย และจำหน่ายออกจากระบบ CRIMES
กำชับให้ทุกหน่วย เร่งรัด กวดขัน จับกุม อาวุธปืน อาวุธสงคราม ผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง ให้ปรากฏผลโดยเร็ว กรณีมีการจับกุมอาวุธปืน อาวุธสงคราม ให้ประสานหน่วยเกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบขยายผลให้ถึงที่สุด โดยเฉพาะให้ประสาน พฐ. ในพื้นที่เพื่อตรวจสอบด้วย กรณีมีการจับกุมผู้อิทธิพล มือปืนรับจ้าง ให้ขยายผลการจับกุม และบังคับใช้กฎหมายให้ถึงที่สุด โดยเฉพาะนำมาตรการทางด้านกฎหมายอื่น ๆ มาบังคับใช้ เช่น กฎหมายฟอกเงิน การยึดทรัพย์ กำชับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนให้เป็นไปตามยุทธวิธี กำชับผู้บังคับบัญชา ทุกหน่วย ให้ความสำคัญ อำนวยการปฏิบัติของฝ่ายสืบสวนให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันความสูญเสีย เช่น การทบทวนยุทธวิธีตำรวจ การจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือในการปฏิบัติ เช่น เสื้อเกราะกันกระสุน, โล่กันกระสุน ซึ่ง ผบ.ตร. มีความห่วงใย จึงมีนโยบายให้จัดฝึกอบรมทบทวนยุทธวิธีของฝ่ายสืบสวน ขณะนี้อยู่ระหว่าง บช.ศ. โดยศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจกลาง ยกร่างโครงการฯ กำชับกวดขันจับกุมการจำหน่ายอุปกรณ์ตรวจ ATK ปลอม หรือไม่ได้คุณภาพผ่านออนไลน์ ให้ทุกหน่วย สืบสวนหาข่าวและวางแผนจับกุมการจำหน่ายชุดตรวจ ATK ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. โดยเฉพาะการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ หากสืบสวนพบการกระทำที่เข้าข่ายเป็นความผิด ให้ประสานหน่วยที่เกี่ยวข้องจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย ให้ทุกหน่วยประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยและป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่ท่องเที่ยว และประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ อาทิเช่น สถานประกอบการ โรงแรม ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว ในการดูแลความปลอดภัย นักท่องเที่ยว รวมทั้งปรับปรุงแก้ไขจุดเสี่ยงต่อการก่ออาชญากรรม หรือเกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนจัดชุดสายตรวจ หรือชุดเคลื่อนที่เร็วออกตรวจสถานที่ท่องเที่ยว
ให้ทุกหน่วยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการตรวจสถานประกอบการ และการจัดกิจกรรม ต้องมีการปฏิบัติตามที่ ศบค. กำหนด โดยเน้นการตรวจร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่เปิดให้มีการดื่มสุราภายในร้าน ให้กำชับการปฏิบัติในการตรวจสอบความผิดเรื่องมั่วสุม การลักลอบเปิดสถานบริการผิดกฎหมาย ร้านอาหาร ต้องเข้มงวด มีผลจับกุม และรายงานผลการปฏิบัติด้วยทุกครั้ง ให้ทุกหน่วยบูรณาการและประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อใช้กลไกปกครองท้องถิ่นและคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม. จว. ในการแก้ไขปัญหา Cluster แบบพุ่งเป้า และดำรงมาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มงวด ให้ทุกหน่วย ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ภายใต้กลไกศูนย์สั่งการชายแดน และดำรงการปฏิบัติในการป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองอย่างเข้มแข็ง มุ่งเน้นการสืบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานประกอบการที่รับแรงงานผิดกฎหมายเข้าทำงาน ขบวนการนำพา รวมทั้งการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ หากพบการกระทำความผิด ให้ดำเนินการทางกฎหมาย ให้เพิ่มความเข้มในการคัดกรองบุคคลเดินทางออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะการถูกหลอกลวงให้ไปทำงาน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าน ผบ.ตร. เน้นย้ำเรื่องการค้ามนุษย์ เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล จึงต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ กำชับให้ผู้บังคับบัญชาไปกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด และห้ามข้าราชการตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาโดยเด็ดขาด
กรณีเกิดเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์ ธนาคาร ร้านทอง และร้านสะดวกซื้อ ให้ทำการวิเคราะห์สถานภาพอาชญากรรม ปรับแผนการตรวจ ตามมาตรการป้องกัน ประชาสัมพันธ์กับผู้ประกอบการให้ป้องกันตนเอง เช่น ติดตั้งลูกกรงเหล็ก ติดตั้งระบบล็อกประตูอัตโนมัติ ติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในและหน้าร้าน และติดตั้งสัญญาณเตือนภัยหน้าร้าน ใช้มาตรการเชิงรุกต่อบุคคล กลุ่มเป้าหมาย เช่น บุคคลพ้นโทษ บุคคลที่ติดการพนัน และบุคคลผู้เกี่ยวข้องกับสารเสพติดในพื้นที่ ใช้รถของทางราชการเปิดสัญญาณไฟวับวาบในย่านชุมชน จุดเสี่ยง จุดล่อแหลม มีการชักซ้อมแผนเผชิญเหตุ เมื่อเกิดเหตุให้เข้าถึงที่เกิดเหตุตามกรอบเวลาที่กำหนด โดยให้ปฏิบัติตามยุทธวิธี และ SOP การเผชิญเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่ได้รับการฝึกอบรม ให้ทุกหน่วยจัดทำแผนเผชิญเหตุ กรณีกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกันในสถานที่ต่าง ๆ อาทิเช่น ในสถาบันการศึกษา ในโรงพยาบาล หรือในสถานที่สาธารณะต่าง ๆ และให้มีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ
เน้นย้ำเรื่องการรับแจ้งความออนไลน์ ให้ทุกหน่วยศึกษาคำสั่ง ตร. ที่ 77/2565 ลง 28 ก.พ. 65 เรื่อง การรับแจ้งความและการบริหารคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 65 โดย
ให้ผู้บริหารการรับแจ้ง (Admin) ของ สน. เปิดดูระบบตั้งแต่เวลา 09.00 – 23.00 น. ของทุกวัน (09.00 น. ให้เปิดดูระบบทันที) เพื่อจะได้รีบดำเนินการและไม่เกิดปัญหาเรื่องตกค้าง ให้ผู้บังคับบัญชา ระดับ สน./ภ.จว./ภ. กำกับดูแล ประชุมติดตามผลการปฏิบัติงาน ระดับ สภ.ฯ 09.00 น. ให้เปิดเข้าดูระบบโดยทันที ทุกวัน (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) 09.30 น. ให้ หน.สภ. หรือ หน.งานสอบสวน ประชุมติดตามคดีออนไลน์ ทุกวัน (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) โดยควรมีข้อมูลในการพิจารณา เช่น เรื่องที่ส่งมาให้มีกี่เรื่อง ได้มอบหมาย พงส. และฝ่ายสืบสวนผู้ใดเป็นผู้รับผิดชอบในแต่ละเรื่อง ได้มีการนัดหมายผู้แจ้งตามกำหนดเวลา 4 ชม. หรือไม่ มีความคืบหน้าในแต่ละคดีอย่างไร ฯลฯ พร้อมจัดทำรายงานการประชุมทุกครั้ง 10.00 น. ประชุมติดตามคดีออนไลน์ ร่วมกับ ภ.จว. ทุกวัน (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ผ่านระบบสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือระบบ Zoom และร่วมประชุมประจำสัปดาห์กับ ภ. ทุกสัปดาห์