วันอาทิตย์ ที่ 12 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 12.00 น.
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์
ผบช.ภ.7
พร้อมด้วย
พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์
ผบก.ภ.จว.นครปฐม
พล.ต.ต.วิสิทธิ์ ศิริสหวัฒน์
ผบก.ศพฐ.7
พ.ต.ท.วรชัย อารักษ์รัฐ
ผบช.เรือนจำกลางนครปฐม
พ.ต.อ.สธนทัต ตั้งสิทธิ์เสรีวงศ์
รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม
พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ คำปาเชื้อ
รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม
พ.ต.อ.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล
ผกก.ปพ.ภ.7
พ.ต.อ.ศุภชัย ไตรสมบูรณ์
นวท.(สบ.5) ศพฐ.7
พ.ต.อ.นฤพนธ์ วานิชนุเคราะห์
ผกก.สภ.สามควายเผือก
พ.ท.คชธร สารีทอง
ผู้บังคับกองเรือนจำ มทบ.11
ประชุมเร่งรัด ติดตามความคืบหน้าของคดี “ผู้ต้องขังหลบหนีออกจากเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย (มทบ.11) ต.ทุ่งน้อย อ.เมือง นครปฐม ซึ่งเป็นผู้ต้องขังเข้าใหม่ ที่ถูกแยกกักตัวตามมาตราป้องกันโรคโควิท 19 หลบหนีไปจากเรือนนอนชาย(พลเรือน) จำนวน 9 คน เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2564 เวลาประมาณ 02.30 น.”
จากนั้นได้ร่วมกันแถลงข่าว จับกุมตัว ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดนครปฐม ข้อหาความผิดฐาน ร่วมกันหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจศาลโดยแหกที่คุมขังและร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป และกระทำด้วยประการใดๆให้เข้ามา,ครอบครอง,ใช้ในเรือนจำซึ่งสิ่งของต้องห้าม(เลื่อยเหล็ก) ซึ่งเป็นเครื่องมืออันเป็นอุปกรณ์ในการหลบหนี
โดยจับกุมเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2564 ดังนี้
1.นายวัชระ มะโนมั่น
อายุ 28 ปี หมายจับเลขที่ จ.353/2564
2.นายเอกราช แป้งกลั่น
อายุ 18 ปี หมายจับเลขที่ จ.349/2564
3.นายวีรเชษฐ์ เทพชู
อายุ 28 ปี หมายจับเลขที่ จ.354/2564
4.นายนัถกร มาตรวังแสง
อายุ 24 ปี หมายจับเลขที่ จ.348/2564
5.นายไพฑูรย์ มีคลองแบ่ง
อายุ 36 ปี หมายจับเลขที่ จ.351/2564
พร้อมด้วยของกลางในคดี
1.ใบเลื่อย จำนวน 1 อัน ( 2 ชิ้น )ตรวจยึดได้บริเวณใกล้กับห้องน้ำภายในที่เกิดเหตุจำนวน 1 ชิ้น และ พบเจออยู่ในกระเป๋าเสื้อของผู้ต้องขังที่นำไปวางไว้บนลวดหนามหีบเพลง ใกล้กับกำแพงที่ผู้ต้องขังปีนหลบหนีไป จำนวน 1 ชิ้น
2.เสื้อสีฟ้าของผู้ต้องขัง จำนวน 1 ชิ้น ตรวจยึดได้บนกำแพงห้องน้ำภายในที่เกิดเหตุ
3.เสื้อสีฟ้าของผู้ต้องขัง จำนวน 1ชิ้น ที่ภายในพบบัตรประชาชนนายพาณิช บัวศร ตรวจยึดได้บริเวณบนลวดหนามหีบเพลงที่อยู่ใกล้กับกำแพงที่ผู้ต้องขังปีนหลบหนีไป
4.เศษผ้าห่มและผ้าเช็ดตัว จำนวน 1 ถุงซึ่งตรวจยึดได้บริเวณบนลวดหนามหีบเพลงที่อยู่ใกล้กับกำแพงที่ผู้ต้องขังปีนหลบหนีไป
พฤติการณ์แห่งคดี
ด้วยเมื่อวันที่11 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 02.30 น. พ.ต.ท.ธนิศร เอกรัตนณัฐ สว.(สอบสวน) สภ.สามควายเผือก ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุว่า มีผู้ต้องขังหลบหนีออกจากเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย ตำบลทุ่งน้อย อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่เรือนจำพลเรือน แจ้งว่ามีผู้ต้องขังเข้าใหม่ ที่ถูกแยกกักตัวตามมาตราป้องกันโรคโควิท 19 หลบหนีไปจากเรือนนอนชาย(พลเรือน) จำนวน 8 คน ต่อมาวันเดียวกันเวลา 10.55 น.พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสามควายเผือกได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุญาตต่อศาลจังหวัดนครปฐมออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด ศาลจังหวัดนครปฐม อนุมัติตามหมายจับที่จ.346-354/2564
ต่อมาภายในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เรือนจำนครปฐมได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องขังที่หลบหนีได้จำนวน 5 ราย ตามรายชื่อข้างต้นนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจสามควายเผือกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 5 คนนั้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
สำหรับผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีกจำนวน 4 คน ได้แก่ 1.นายบำรุง วงศ์สว่าง อายุ 43 ปี , 2.นายพัชรวุฒิ มูลทองสงค์ อายุ 38 ปี , 3.นายจำรูญ คล้ายสุบรรณ อายุ 33 ปี , 4.นายพานิช บัวศร อายุ 35 ปี อยู่ระหว่างดำเนินการติดตามดำเนินคดีต่อไป
ในการปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาต่อมา การปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง
ณ สภ.สามควายเผือก ต.สามควายเผือก อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม