หน้าแรก / “ทำงานเชิงรุก เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน”

“ทำงานเชิงรุก เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน”
วันจันทร์ที่ 11 ต.ค. 64 เวลา 14.00 น.
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์
ผบช.ภ.7
พร้อมด้วย
พล.ต.ต.อาทิชา เปาอินทร์
รอง ผบช.ภ.7
พ.ต.อ.สายฟ้า จิราวรรธนสกุล
รอง ผบก.อก.ภ.7
ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม ศฝร.ภ.7
ทั้งนี้ได้เดินทักทาย และตรวจเครื่องแบบ ทรงผม กำลังพล พบว่าถูกต้องตามระเบียบ มีระเบียบวินัยดี ที่ทำการมีความสะอาดเรียบร้อย มีจุดคัดกรองโรค มีหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ไว้บริการ มีที่จอดรถสำหรับประชาชนที่มาติดต่อราชการ
โดยมี
พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญ
ผบก.ศฝร.ภ.7
และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รอรับการตรวจเยี่ยม
ในการนี้ ได้ประชุมเพื่อมอบนโยบายการบริหารราชการให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัด ศฝร.ภ.7 ตั้งแต่ระดับ สว. ขึ้นไป ที่ไม่ติดภารกิจหรือราชการสำคัญอื่นใด และได้กำชับให้ปฏิบัติ ดังนี้
1. ภารกิจหลักของศูนย์ฝึกอบรมตำรวจ คือ ผลิตข้าราชการตำรวจ เพื่อออกไปรับใช้พี่น้องประชาชน ดังนั้น การผลิตข้าราชการตำรวจให้มีประสิทธิภาพนั้น ต้องประกอบด้วย คุณภาพ คุณธรรม และจริยธรรม ควบคู่กันไป จึงจะทำให้ข้าราชการตำรวจนั้นเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง
1.1 มีคุณภาพ คือ การมีคุณลักษณะที่เหมาะสมกับการเป็นข้าราชการตำรวจ มีระเบียบวินัยที่ดี มีองค์ความรู้ทั้งทางด้านวิชาการตำรวจ กฎหมาย และสังคม เมื่ออยู่ในองค์กรตำรวจ ข้าราชการตำรวจต้องมีวินัย เชื่อฟังคำสั่ง
ผู้บังคับบัญชา เคารพผู้บังคับบัญชา เคารพรุ่นพี่ เอื้ออารีรุ่นน้อง เมื่อออกสู่สังคม ข้าราชการตำรวจ ต้องพิทักษ์รับใช้ประชาชน เสียสละเวลาส่วนตัว สร้างประโยชน์ต่อส่วนรวม ไม่แสวงหาผลประโยชน์ใด ๆ อันจะทำให้ตัวเอง เพื่อนร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา และองค์กร ได้รับความเสื่อมเสีย และเสียหาย
1.2 มีคุณธรรม คือ ต้องปลูกฝังให้นักเรียนนายสิบตำรวจ ที่จะออกไปรับใช้ประชาชน มีคุณธรรม เช่น มีความกตัญญู ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ อดทน สามัคคี มีวินัย มีน้ำใจ และเป็นสุภาพชน เป็นต้น
1.3 มีจริยธรรม คือ การประพฤติปฏิบัติดี โดยการนำคุณธรรมที่มีอยู่มาปฏิบัติให้ปรากฏ ทั้งทางกาย วาจา ใจ
2. นอกจากภารกิจหลักที่ผลิตข้าราชการตำรวจ เพื่อออกไปรับใช้พี่น้องประขาชนแล้ว ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจยังมีหน้าที่ อบรมเพิ่มพูนความรู้ และพัฒนาความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ อีกส่วนหนึ่งด้วย เช่น หลักสูตรนายร้อย 53, หลักสูตร สว. หรือหลักสูตรทบทวนต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมายจาก ตร.
ในส่วนนี้ การพัฒนาองค์ความรู้ให้กับข้าราชการตำรวจ นั้น ต้องมุ่งเน้น “พัฒนาเป็นมืออาชีพ” คือเมื่อได้รับการฝึกอบรมแล้ว ต้องมีความรู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ เพื่อนำไปปฏิบัติหน้าที่ด้วยความแม่นยำ ถูกต้อง รวดเร็ว เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
3. ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจ ต้องพัฒนาหน่วยงานให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ และบริการความรู้ทางวิชาการ ให้แก่ นักเรียนนายสิบตำรวจ ข้าราชการตำรวจ และประชาชนทั่วไป ที่เข้ามาสอบถามหรือหาข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งการบูรณาการการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานหรือองค์กรอื่น ๆ ทั้งทางภาครัฐ ภาคเอกชน สังคม และชุมชน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ในการนี้ ขอให้ข้าราชการตำรวจทุกฝ่ายในศูนย์ฝึกอบรมนี้ ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายบริหาร ฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายบริการการศึกษา ฝ่ายปกครองและการฝึก รวมทั้งกลุ่มงานคณาจารย์ ได้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ ในการผลิตข้าราชการตำรวจ ให้เป็นผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง ร่วมแรงร่วมใจกัน เพื่อให้ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 ผลิตข้าราชการตำรวจให้ “เป็นตำรวจมืออาชีพ” เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา และเพื่อความผาสุกของประชาชน
5. นำนโยบายรัฐบาล วิสัยทัศน์ ผบ.ตร. “เป็นองค์กรบังคับใช้กฎหมายที่นำสมัย ในระดับมาตรฐานสากล เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธา” วิสัยทัศน์ตำรวจภูธรภาค 7 “ภักดีองค์ราชันมุ่งมั่นสร้างศรัทธา พัฒนาเป็นมืออาชีพ บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม นำสมัย เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา” และวิสัยทัศน์ ผบช.ภ.7 “ทำงานเชิงรุก เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน” ไปปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรม
6. ต้องทำงานกันเป็นทีม ยึดมั่นในระเบียบวินัย บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชนและดำรงตนอย่างมีเกียรติ
7 . การทำงานต้องประกอบด้วย “หลักการทำงาน 4443”
7.1 “4 เกาะ” เกาะติดพื้นที่ เกาะติดประชาชน/มวลชน/และชุมชน เกาะติดคนร้ายหรือเกาะติดศัตรูของประชาชน และเกาะติดผู้ใต้บังคับบัญชาหรือเกาะติดลูกน้อง
7.2 “4 ยก” ยกระดับองค์ความรู้ ยกระดับวิธีคิด ยกระดับวิธีการทำงาน และยกระดับการใช้ดุลพินิจ
7.3 “4 ทำ” ทำงาน ทำดี ทำบุญ และมีภาวะผู้นำ
7.4 “3 S” Smart Smile Strong
8. ให้ผู้บังคับบัญขาทุกระตับ กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติ และพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชา ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง แบบแผนธรรมเนียมของทางราชการอย่างสม่ำเสมอโดยใกล้ชิด และสร้างขวัญกำลังใจ ความสามัคคี ภาพลักษณ์ของตำรวจให้ดีขึ้น และสร้างความเชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชน เพื่อให้ยอมรับว่าข้าราชการตำรวจเป็นมิตรที่ดีของประขาชน เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริงตามคำสั่งกรมตำรวจ ที่ 1212/2537 ลง 1 ต.ค.2537 เรื่อง มาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ
9. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ตรวจสอบควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การกระทำความผิดใด ๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ห้ามมิให้เรียกรับผลประโยชน์ การจับกุมในลักษณะกลั่นแกล้ง มีส่วนพัวพันกับการกระทำความผิด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต หากพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินการทางวินัยคดีอาญาและปกครองอย่างถึงที่สุด
ณ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค7 (ไพรสะเดา)
ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี

