ลากคอได้แล้ว 5 นายพรานใจโหดฆ่าเสือโคร่ง 2 ตัว กลางป่าอุทยานฯทองผาภูมิ ใช้ซากวัวเป็นเหยื่อล่อซุ่มยิงปลิดชีพจับถลกหนัง ชำแหละเนื้อ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าลาดตระเวนไปพบทิ้งของกลางเผ่นหนี ก่อนติดต่อผู้ใหญ่บ้านพาเข้ามอบตัว อ้างปมแค้นเสือออกจากป่ามากัดกินวัวในหมู่บ้านช่วง 2 เดือนตายไปร่วม 20 ตัว ไม่รู้จะทำอย่างไรเลยไปซุ่มยิงทิ้ง ใช้ปืนแก๊ปยาวลั่นไกสังหาร ส่วนปืนลูกซองยาว 5 นัดที่เจ้าหน้าที่ยึดได้ยืมจาก อปพร.มาไว้ป้องกันตัว โดนแจ้งหลายข้อหาหนักตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนฯ พ.ร.บ.อุทยานฯ และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ
จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ลาดตระเวนไปพบกลุ่มนายพรานใจโหด 5 คนตั้งแคมป์นำซากวัวมาเป็นเหยื่อล่อ ซุ่มยิงเสือโคร่งตาย 2 ตัว นำมาแร่เนื้อถลกเอาหนัง ขณะจะเข้าจับกุมกลุ่มนายพรานไหวตัวทันวิ่งหลบหนีไปได้ ในที่เกิดเหตุพบแคร่นั่งร้านย่างเนื้อสัตว์ ซากเสือโคร่ง 2 ตัว เพศผู้กับเพศเมีย ปืน 4 กระบอก และอุปกรณ์การกระทำผิดอื่นๆ รวม 29 รายการ เหตุเกิดในป่าห้วยปิล๊อก หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ ช่วงวันที่ 8-11 ม.ค. มีรายงานว่า หนึ่งในปืนที่ยึดได้เป็นปืนลูกซองยาวที่ใช้ในราชการ อปพร. มีคนโทรศัพท์มาเคลียร์ขอปืนคืน แต่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมปฏิเสธไป
ความคืบหน้าเมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่นำซากเสือโคร่งถูกชำแหละแยกหนังทั้ง 2 ตัว รวมทั้งเนื้อเสือโคร่งที่ถูกหั่นเป็นชิ้นๆลักษณะคล้ายกับเนื้อแดดเดียวและของกลางทั้งหมดไปเก็บไว้ยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาถ่ายภาพพร้อมเก็บตัวอย่างเพื่อนำไป ตรวจดีเอ็นเอใช้เป็นหลักฐานทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ ขณะเดียวกันมีรายงานด้วยว่าปืนลูกซองยาว 5 นัดยี่ห้อวินเชสเตอร์ หมายเลขประจำปืน L1526415 หนึ่งในของกลางที่ตรวจยึดได้ในที่เกิดเหตุ เป็นปืนของเจ้าหน้าที่ อปพร. ทางหน่วยงานต้นสังกัดพยายามติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ในพื้นที่ให้วิ่งเต้นเพื่อแจ้งความว่าปืนหายย้อนหลังด้วย
ต่อมาในช่วงเที่ยง ตำรวจได้รับการประสานจากนายอานนท์ ถนอมวงษ์ ส.อบจ.เขต อ.ทองผาภูมิ นายประสาท แดงเถิน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ปิล๊อก ว่าขอพาลูกบ้านที่กระทำผิดเข้ามอบตัวที่ สภ.ทองผาภูมิ แทน สภ.ปิล๊อก พ.ต.อ.สันติ พิทักษ์สกุล ผกก.สภ.ทองผาภูมิ นำกำลังตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯทองผาภูมิ นำรถตู้ไปรับตัวผู้ต้องหา 4 คนที่บริเวณจุดตรวจเชิงเขาบ้านไร่ ต.ปิล๊อก นำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.ทองผาภูมิ
ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายกูกือ ยินดี อายุ 37 ปี นายจอแห่ง พนารักษ์ อายุ 38 ปี ทั้งสองถือบัตรประจำตัวบุคคลซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บุคคลบนพื้นที่สูง บัตรสีชมพู) นายศุภชัย เจริญทรัพย์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/พ หมู่ 4 ต.ปิล๊อก และนายรัชชานนท์ เจริญทรัพย์ อายุ 30 ปี น้องชายของนายศุภชัย สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การอ้างว่า พวกตนมีอาชีพเลี้ยงวัว ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา วัวของชาวบ้านและพวกตนถูกเสือโคร่งออกจากป่ามากินและกัดตายไปร่วม 20 ตัว ไม่รู้จะทำอย่างไรเลยนำซากวัวที่ถูกเสือกัดตายไปล่อเสือออกมายิงตาย 2 ตัว ปืนที่ใช้ยิงเสือตายเป็นปืนแก๊ปยาว ส่วนอาวุธปืนลูกซอง 5 นัดพวกตนยืมมาจากเจ้าหน้าที่ อปพร.เพื่อนำมาป้องกันตัวเท่านั้น
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี พ.ต.อ.อภิชาติ ศรีทองกุล รอง ผบก. พร้อมคณะพนักงานสอบสวน ประชุมร่วมกับนายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พร้อมสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาเพื่อขยายผลถึงผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คนที่ยังหลบหนี โดยทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาร่วมกันกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติฯ มาตรา 14 (2) และมาตรา 31 (6) ในข้อหาฐานร่วมกันเก็บหาของป่า อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฯ มาตรา 19 (3) มาตรา 43 ฐานร่วมกันล่อ หรือนำสัตว์ป่าออกไป หรือกระทำให้เกิดอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใด ฐานร่วมกันเข้าไปดำเนินการใดๆเพื่อหาประโยชน์ ตามมาตรา 19 (6) และมาตรา 44 ฐานร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆเข้าไป ตามมาตรา 19 (7) และมาตรา 45 ฐานยิงปืน ตามมาตรา 19 (8) และมาตรา 44 ฐานทิ้งสิ่งที่เป็นเชื้อเพลิงซึ่งอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ ตามมาตรา 19 (9) และมาตรา 44 และตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ ฐานห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าตามมาตรา 17 และมาตรา 92
ต่อมาในช่วงค่ำ ตำรวจนำกำลังเข้าจับกุมตัวนายพรานโหดผู้ต้องหาคนที่ 5 ได้แล้วคือนายโซเอ ไม่มีนามสกุล อายุ 60 ปี อดีตทหารกะเหรี่ยง มีความเชี่ยวชาญการล่าสัตว์ป่า จับกุมได้ในหมู่บ้านหมู่ 4 ต.ปิล๊อก นำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.ทองผาภูมิ
ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/local/central/2287741