หลังจากการจับกุม ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนเพื่อขยายผลไปยังขบวนการแต่การสอบสวนทราบเพียงว่ายาบ้าทั้งหมดนำมาจากชายแดน โดยหญิงรายนี้ได้เป็นผู้รับจ้างขับรถขนยาเสพติดดังกล่าว เพื่อนำไปยังจุดที่นัดหมายก่อนจะมีผู้รับไปอีกทอดหนึ่งในพื้นที่ชั้นใน ส่วนจุดหมายปลายทางไม่ทราบว่าเป็นที่ใด อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสวนขยายผลถึงเครือข่ายและกลุ่ใขบวนการยาเสพติดรายนี้ต่อไป

ด้าน นายฉกาจ อาสนา ปลัดอาวุโสอำเภอสังขละบุรี ตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวถึงการจับกุมยาเสพติดในครั้งนี้ว่า แม้ทางเจ้าหน้าที่จะเฝ้าติดตาม ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง แต่ก็ยังคงมีการลักลอบขนยาเสพติดต่อเนื่องเช่นกัน จึงต้องฝากประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบว่ามีสิ่งผิดปกติสามารถแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองทุกหน่วยได้ตลอดเวลา

ขณะที่ พ.ต.อ.กฤตชัย ทองอยู่ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า การจับกุมการลักลอบขนยาเสพติดในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ ตชด. ตำรวจ สภ.สังขละบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองสังขละบุรี โดยการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ได้พบความผิดปกติจุดที่ฝาถังน้ำมัน จึงได้มีการถอดถังน้ำมันออกมา เพื่อตรวจสอบจนพบว่าภายในถังพบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่เป็นจำนวนมาก โดยการซุกซ่อนยาเสพติดทั้งหมดจำนวน 1.9 แสนเม็ด เพื่ออำพรางตบตาเจ้าหน้าที่ หลบเลี่ยงการจับกุม แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบความผิดปกติ จึงได้ตรวจสอบอย่างละเอียดจนพบยาเสพติดในครั้งนี้

สำหรับที่มาของยาเสพติดทั้งหมดเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวน นางสาวอังคนา ซึ่งขับรถยนต์คันดังกล่าวมาเพียงผู้เดียว ให้รับสารภาพว่า ตนเองได้เป็นผู้ขับรถไปยังจุดนัดหมาย ส่วนอื่นๆ ไม่ทราบอะไรมากกว่านี้ 

พ.ต.อ.กฤตชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาการลักลอบขนยาเสพติดส่วนใหญ่จะทราบเพียงการเข้ามาเพื่อลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน แต่ปลายทางของขบวนการค้ายารายนี้นั้นยังไม่ทราบ เพราะหากผู้ต้องหาถูกจับได้จะถูกตัดตอน เพื่อไม่ให้สาวถึงตัว โดยผู้ที่ทำหน้าที่แต่ละช่วงของขบวนการเหล่านี้จะทำหน้าที่ต่างกันไป การสอบเพื่อขยายผลที่จะทราบปลายทางจึงไม่สามารถระบุได้ ซึ่งเป็นเรื่องยากพอสมควร แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ย่อท้อในการทำงาน โดยจะได้ดำเนินการสอบสวนเชิงลึกต่อไป